Author:
สิงห์โต อลงกต,ลายทิพย์ นันท์นภัส,โตรักษา สิริกัญญา,เพ็งโนนยาง สุภาพร
Abstract
ซีลีเนียมเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อยแต่มีความจำเป็นและมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสอันเนื่องมาจากการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ลดลง การส่งเสริมให้ได้รับซีลีเนียมอย่างเพียงพอในผู้ติดเชื้อเอชไอวี จึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมภาวะสุขภาพ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลความสำคัญของซีลีเนียม อาหารที่เป็นแหล่งของซีลีเนียม และความสำคัญของซีลีเนียมที่มีต่อภาวะสุขภาพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี รวมถึงผลจากงานวิจัยก่อนหน้าที่มีการศึกษาวิจัยผลของการให้ซีลีเนียมจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในผู้ติดเชื้อเอชไอวีกลุ่มต่าง ๆ ต่อภาวะสุขภาพของผู้ติดเชื้อเอชไอวีผ่านการค้นคว้างานวิจัยจากฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับทางวิชาการ จากข้อสรุปพบว่าซีลีเนียมช่วยเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันในผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้ อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มของผู้ติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทย ยังคงต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในอนาคตเกี่ยวกับปริมาณซีลีเนียมที่เหมาะสมในผู้ติดเชื้อเอชไอวีและรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จะมีประสิทธิผลและไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพของผู้ติดเชื้อ
Publisher
Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital, Mahidol University
Reference30 articles.
1. Barchielli G, Capperucci A, Tanini D. The role of selenium in pathologies: an updated review. Antioxidants (Basel). 2022;11(2):251. doi:10.3390/antiox11020251
2. World Health Organization. Vitamin and Mineral Requirement in Human Nutrition: Selenium. 2nd ed. World Health Organization; 2004:194-216. Accessed May 1, 2023. https://www.who.int/publications/i/item/9241546123
3. Navia B, Ortega RM, Perea JM, et al. Selenium status in a group of schoolchildren from the region of Madrid, Spain. J Hum Nutr Diet. 2014;27 Suppl 2:239-246. doi:10.1111/jhn.12126
4. Bunupuradah T, Pinyakorn S, Puthanakit T. Prevalence of selenium deficiency in Thai HIV-infected children without severe HIV symptoms. Eur J Clin Nutr. 2012;66(11):1278. doi:10.1038/ejcn.2012.116
5. Avery JC, Hoffmann PR. Selenium, selenoproteins, and immunity. Nutrients. 2018;10(9):1203. doi:10.3390/nu10091203